top of page
ค้นหา

ทำฝ้าทั้งทีไม่มีผิดหวัง! ด้วยข้อควรรู้ก่อนติดตั้งและรับงานฝ้าเพดาน

  • รูปภาพนักเขียน: Woramuntasuan Ch
    Woramuntasuan Ch
  • 10 ม.ค.
  • ยาว 1 นาที

  • การทำฝ้าเพดานเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในทุก ๆ บ้าน เพราะช่วยปกปิดงานระบบที่อยู่บนเพดาน แถมยังตกแต่งบ้านให้สวยสมบูรณ์แบบขึ้นด้วย แต่ก่อนจะติดตั้งฝ้าเพดาน อย่าลืมเช็กจุดรั่วซึม ระบบไฟ โครงสร้าง ดูความสูง และฉนวนความร้อน เพื่อให้ติดตั้งมาแล้ว ไม่ต้องซ่อมแซมกันในภายหลัง

  • หลังจากทำฝ้าเพดานแล้ว ก่อนจะรับงานจากช่าง อย่าลืมตรวจดูคุณภาพอุปกรณ์ ดูจุดรั่วซึม ดูเรื่องความสูง ฝ้าเรียบได้ระดับหรือไม่ และต้องตรวจสอบการฉาบด้วยว่าเก็บงานเรียบร้อยพร้อมใช้งาน เพื่อจะได้ไม่ต้องซ่อมแซมเพิ่มเติมให้เสียเวลา


ฝ้าเพดานเป็นอีกจุดที่ต้องวางแพลนให้ดี โดยเฉพาะใครที่อยากรีโนเวทบ้านใหม่ก็คงอยากจะปรับให้ทันสมัยเข้ากับสไตล์ที่ชอบ หรือถ้าจะสร้างบ้านใหม่ก็ควรออกแบบให้ตรงใจ ก่อนจะทำฝ้าเพดานที่บ้านจึงอย่าลืมเช็กดูความพร้อมของบ้านเสียก่อน เพื่อให้เลือกติดตั้งฝ้าเพดานออกมาตอบโจทย์ ใช้งานกันได้อย่างยาวนาน และหลังจากที่ช่างติดตั้งเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนรับงาน เพื่อป้องกันปัญหาคราบน้ำ คราบราดำ ไปจนถึงน้ำหยด ที่ชวนให้ปวดหัวแบบสุด ๆ แถมเสียเวลาและเงินซ่อมแซม วันนี้ ehouseconstruction จึงมีเคล็ดลับที่จะช่วยให้ทุกคนติดตั้งฝ้าแล้วไม่ผิดหวังมาฝากกัน!


5 จุดที่ต้องเช็กก่อนทำฝ้าเพดาน เตรียมพร้อมไว้ไม่มีเสียหาย!

1. เช็กจุดรั่วซึมบนหลังคาและห้องน้ำชั้นบน

“ตรวจสอบการรั่วซึม ป้องกันน้ำหยด คราบน้ำ คราบเชื้อรา”

ฝ้ามีน้ำหยด คราบน้ำ คราบเชื้อรา ปัญหาที่พบได้บ่อยมากบนฝ้าเพดาน นอกจากจะทำให้บ้านทรุดโทรมไม่น่าอยู่ ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นจากการรั่วซึมนั่นเอง ก่อนจะทำฝ้าเพดาน เราจึงต้องเช็กเรื่องรั่วซึมกันเสียก่อน

  • บ้านชั้นเดียว หลังคาเป็นส่วนที่มีโอกาสรั่วซึมลงมามากที่สุด ก่อนติดตั้งฝ้าเพดาน จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ตรวจสอบดูหลังคาทั้งภายนอกและภายในว่ามีจุดไหนเสียหายหรือไม่ ทั้งวัสดุมุงหลังคา ตัวยึด และแนวหลังคา หากพบก็ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อย ก่อนทำฝ้าปิดโครงสร้างหลังคา 

  • บ้านสองชั้น ถ้าห้องน้ำชั้นบนรั่วซึม มีโอกาสที่น้ำจะซึมหรือหยดลงมาที่ฝ้าก่อนทำฝ้าเพดานจึงควรตรวจดูว่าในห้องน้ำมีจุดไหนรั่วซึมหรือไม่ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นท่อระบายน้ำ และสุขภัณฑ์ต่าง ๆ และบริเวณระบบประปาใต้ห้องน้ำ ซึ่งควรจะจัดการให้เรียบร้อย จะได้ไม่ต้องรื้อซ่อมแซมกันภายหลัง


2. เช็กระบบไฟ เก็บให้เรียบร้อย เพิ่มความปลอดภัย

“ร้อยท่อให้เรียบร้อย ป้องกันสายไฟเสียหาย”

เวลาสร้างบ้านหรือปรับปรุงบ้านใหม่ ช่างส่วนใหญ่มักจะติดตั้งระบบไฟฟ้าไว้บนเพดาน แต่ก่อนจะทำฝ้าเพดาน ต้องเช็กก่อนว่าสายไฟต่าง ๆ มีท่อร้อยสายห่อหุ้มไว้หรือไม่ เพราะจะช่วยเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ และยังป้องกันสัตว์ต่าง ๆ มาแทะสายไฟให้เสียหาย ช่วยป้องกันอันตรายจากไฟรั่วหรือไฟลัดวงจรเพราะสายไฟขาดได้ด้วย นอกจากนี้อย่าลืมเช็กให้ดีว่ามีสายไฟตรงไหนเสียหายหรือไม่ หากพบก็ควรซ่อมแซมทันทีก่อนติดตั้งฝ้าเพดานปิดโครงสร้าง


3. ฉนวนความร้อน ติดตั้งพร้อมทำฝ้าได้เลย

“ฉนวนกันความร้อน ติดตั้งก่อนทำฝ้าเพดานได้เลย”

เพราะการทำฝ้าเป็นขั้นตอนปิดโครงสร้างบนเพดานทั้งหมด ถ้าบ้านไหนร้อนมากเพราะยังไม่ได้ติดตั้งฉนวนกันความร้อน สามารถทำก่อนการติดตั้งฝ้าเพดานได้เลย เพราะถ้าติดตั้งฉนวนหลังทำฝ้าแล้วจะยุ่งยากกว่ามาก แต่ตำแหน่งของฉนวนกันความร้อนจะอยู่ใต้สายไฟ ดังนั้นที่สำคัญอย่าลืมร้อยสายไฟในท่อให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันสายไฟเสียหายจากการติดตั้งนั่นเอง


4. เช็กโครงคร่าวว่าได้มาตรฐานพร้อมติดตั้งฝ้าเพดานหรือไม่

“โครงคร่าวต้องได้มาตรฐาน อยู่ในระยะที่เหมาะสม”

ก่อนจะติดตั้งฝ้าเพดาน ช่างจะต้องทำการติดตั้งโครงคร่าวเอาไว้ก่อน ซึ่งจะมีส่วนของโครงบนเป็นโครงคร่าวหลัก และโครงร่างเป็นโครงรอง ควรเช็กดูว่าวัสดุโครงคร่าวที่ช่างใช้นั้นได้รับมาตรฐานมอก. หรือไม่ และดูด้วยว่าระยะเหมาะสมแล้วหรือยัง โดยส่วนใหญ่โครงคร่าวหลักมักจะมีระยะ 1-1.2 เมตร ส่วนโครงคร่าวรองจะมีระยะ 0.4 เมตร การเช็กดูส่วนนี้จะช่วยป้องกันปัญหาทำฝ้าเพดานแล้วฝ้าแอ่นตัว ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องมารื้อซ่อมกันใหม่


5. เช็กความสูง

นอกจากการตรวจดูมาตรฐานของโครงคร่าวก่อนทำฝ้าเพดาน ต้องดูด้วยว่าความสูงที่กำหนดไว้นั้นอยู่ในระยะที่ออกแบบไว้หรือไม่ เพราะจะทำให้ภาพรวมของห้องออกมาไม่สวยงามเท่าที่ควร อาจจะเตี้ยเกินไปจนอึดอัด หรือสูงไปจนดูไม่พอดีกับพื้นที่ในห้อง ถึงการติดตั้งฝ้าเพดานเราจะเลือกความสูงได้ตามที่ต้องการ แต่มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากว่าสูงเท่าไรถึงจะพอดี


ที่อยู่อาศัยทั่วไปควรติดตั้งฝ้าเพดานที่สูงไม่ต่ำกว่า 2.6 เมตร ตามกฎหมายควบคุมอาคาร แต่ก็ปรับได้ตามขนาดพื้นที่ในห้อง คนส่วนใหญ่จึงนิยมทำฝ้าที่ความสูง 2.5-2.8 เมตร ซึ่งจะใช้ได้กับทุกห้องในบ้านเลย

คนชอบบ้านโปร่ง ๆ ควรทำฝ้าเพดานที่ความสูงประมาณ 2.8-3.2 เมตร เพื่อให้บ้านดูโล่ง โปร่ง มองแล้วห้องกว้างสบายตา ความสูงนี้จะนิยมใช้ในห้องที่เน้นทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร ห้องอ่านหนังสือ แต่ไม่เหมาะกับห้องนอนเพราะทำให้เวลานอนรู้สึกเวิ้งว้างเกินไป

หลังจากเช็กดูส่วนต่าง ๆ ก่อนทำฝ้าเพดานแล้ว หลังจากช่างติดตั้งฝ้าเพดานเสร็จเรียบร้อย อย่าเพิ่งรับงานทันที ควรจะตรวจสอบดูอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาให้แก้ไขเพิ่มเติม จะต้องดูตรงไหนบ้างตาม มาดูกันได้เลย


ทำฝ้าเพดานแล้ว ก่อนรับงานต้องตรวจดูอะไรบ้าง?

1. ตรวจสอบภาพรวม เก็บงานเนี๊ยบเป๊ะแล้วหรือยัง

เมื่อช่างติดตั้งฝ้าเพดานเสร็จแล้ว ควรดูภาพรวมของงานก่อนว่าออกมาสวยงาม เก็บรายละเอียดครบหรือไม่ ไปจนถึงระยะห่างต่าง ๆ ที่จะต้องดูให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะมีสิ่งสกปรก สัตว์หรือแมลงต่าง ๆ เล็ดลอดเข้าไปได้ โดยจุดใหญ่ ๆ ที่ควรจะตรวจสอบดู ได้แก่

  • ทาสี ควรดูว่าช่างทาสีบนฝ้าเพดานเรียบเนียนดีหรือไม่ มีตรงจุดไหนที่มีรอยด่าง ทาสีไม่เรียบร้อยหรือไม่

  • ตำแหน่งรูต่าง ๆ ช่องเจาะสำหรับติดตั้งโคมไฟ ควรจะต้องพอดีกับขนาดโคม เมื่อติดตั้งแล้วไม่มีช่องว่างหรือระยะห่าง


2. รอยต่อระหว่างแผ่นฝ้า แนบสนิทกันหมดหรือไม่

เวลาติดตั้งฝ้าเพดาน ช่างจะยึดฝ้าเข้ากับโครงคร่าวด้วยสกรู และใช้เทปผ้าปิดตรงรอยต่อและขอบที่ชนกับผนัง จากนั้นก็จะฉาบปิดไม่ให้เห็นรอยต่อ จึงควรตรวจดูว่าบริเวณรอยต่อเหล่านี้แนบสนิทดีหรือยัง มีจุดไหนที่มีระยะห่างหรือไม่ ถ้าเห็นฝ้านูนตามสันรอยต่อ หรือมีรอยแตกร้าวไม่เรียบเนียน ควรซ่อมแซมปิดผิวใหม่ก่อนจะรับงาน


3. ความสูงพอดีหรือไม่ หรือมองแล้วอึดอัด

ถ้าติดตั้งฝ้าเพดานออกมาแล้ว บรรยากาศในห้องดูทึบ อึดอัด ควรวัดระยะดูว่าตรงตามที่ออกแบบมาหรือไม่ ถ้าเช็กความสูงแล้วไม่ตรงตามแบบก็จะต้องแจ้งช่างให้รื้อแล้วแก้ไขใหม่ หรืออาจจะต้องออกแบบแล้วทำฝ้าเพดานใหม่ให้ตรงความต้องการ เพื่อให้เข้าไปอยู่แล้วสบายมากที่สุด


4. ตรวจสอบดูว่าฝ้าเอียง แอ่นตัว หรือตกท้องช้างหรือไม่

ปัญหาฝ้าเอียง แอ่นตัว หรือตกท้องช้าง ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่เห็นได้ชัดถ้าทำฝ้าเพดานไม่ได้มาตรฐาน ควรสุ่มตรวจดูระยะของพื้นถึงฝ้าเพดานว่าเท่ากันทั้งห้องหรือไม่ ถ้าวัดแล้วห่างกันประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยังถือว่าเป็นระยะที่โอเค แต่ถ้าต่างกันเกิน 5 เซนติเมตร ควรจะแจ้งให้ช่างแก้ไขก่อนรับงาน


5. ช่องเซอร์วิสสำหรับงานระบบใต้หลังคา

ไม่ว่าจะทำฝ้าเพดานแบบไหน ก็ควรจะมีช่องเซอร์วิสสำหรับขึ้นไปตรวจสอบ หรือซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ประปา หรือตรวจการรั่วซึม ช่องเซอร์วิสทั่วไปมักจะมีขนาด 60×60 เซนติเมตร จะเป็นขนาดที่เหมาะสมให้คนขึ้นไปได้พอดี โดยจะต้องดูด้วยว่าช่องเซอร์วิสมีขอบแข็งแรง ไม่มีร่องรอยความเสียหาย เมื่อปิดแล้วก็จะต้องดูเรียบร้อยเป็นหนึ่งเดียวกับฝ้าเพดานทั้งห้อง


ขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก https://nocnoc.com/blog/

 
 
 

Comments


bottom of page